ในวันนั้น เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้จัดผู้เล่นที่ดีที่สุดในการลงสนามวันนั้น โดยนักเตะที่มาทำหน้าที่แทน โรดรี้ คือ มัตเตโอ โควาซิซ และ ริโก้ ลูอิส นั่นบ่งบอกว่า เราต้องใช้ผู้เล่นถึง 2 คนในการทำงานแดนกลางแทนกองกลางชาวสเปนรายนี้ ยิ่งทำให้รู้ว่าที่ผ่านมาเจ้าตัวทำงานหนักเพียงใดเพื่อที่จะพา ‘เรือใบสีฟ้า’ คว้าทริปเปิ้ลแชมป์ได้สำเร็จ การโดนใบแดงครั้งนี้น่าจะเป็นเครื่องเตือนใจให้กับเจ้าตัวว่า อย่าหาทำอีก เพราะมันกระทบต่อทีมนะเฮ้ย การแพ้ 3 นัดติดในเกมที่ไม่มี โรดรี้ นั่นคือคำตอบอย่างดี

ต่อมาแดนหน้า 3 คนที่ดูเหมือนจะทำอะไรไม่ได้เท่าไร ทั้ง โฟเด้น, เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ และฮูเลี่ยน อัลวาเรซ อาจเป็นเพราะ แบร์นาโด้ ซิลบา ต้องลงไปช่วยแดนกลางทั้ง 2 คน ทำให้ไม่มีผู้เล่นสร้างสรรค์ไปข้างหน้าเท่าไร เราต้องยอมรับว่า แดนกลางของฝั่ง อาร์เซน่อล ดูจะมีคุณภาพและเล่นได้ดีกว่าเราพอสมควร แดนหลังทั้ง 4 คนได้แก่ ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, นาธาน อาเก้ และ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ก็ไม่ขอตำหนิใดๆเพราะทำได้เต็มที่แล้ว ประตูที่เสียก็เป็นเหตุสุดวิสัยจากการยิงมาโดน อาเก้ จนบอลเปลี่ยนทางเข้าประตู

ปัญหาหลังจากนี้เราเห็นได้ชัดแล้วว่า แมนฯซิตี้ ไม่มีตัวแทน โรดรี้ และ เควิน เดอ บรอยน์ ซึ่งเป็นปัญหาระยะยาวอย่างแน่นอน คาวิน ฟิลลิปส์ ที่ตั้งใจซื้อมาเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระให้กองกลางชาวสเปนก็ดูเหมือนว่าจะไม่เวิร์คจนมีข่าวว่าอาจปล่อยตัวในช่วงมกราคมที่จะถึงนี้ คำถามต่อมา จะหาใครมาแทนดี ต่อมา โฟเด้น และ อัลวาเรซ ก็ดูเหมือนจะไม่ใช่สไตล์ ของ เดอ บรอยน์ เท่าไร ด้วยลักษณะการเล่นส่วนตัวและการยืนตำแหน่ง ก็เป็นโจทย์ใหญ่เช่นกัน ด้วยวัย 32 ปีของกองกลางชาวเบลเยี่ยม ก็ยิ่งทำให้คิดหนักเลยทีเดียว

ในฐานะแฟนบอล แมนฯซิตี้ ต้องบอกว่าเราอาจจะแพ้ได้ในช่วงต้นฤดูกาลซึ่งอาจไม่ส่งผลกระทบมากนัก แต่ตราบใดที่ยังเป็นทีมลุ้นแชมป์จำเป็นอย่างมากที่ต้องกาตัวทดแทนในกรณีที่ตัวหลักไม่สามารถลงได้ ก็เกิดเป็นคำถามเหมือนเดิมว่า ใครดี?

เขียนโดย The Lite Team.